ตรวจสภาพรถ ตรอ. ราคาเท่าไร ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ?
ตรวจสภาพรถใช้อะไรบ้าง ถ้าตรวจไม่ผ่านจะต้องทำอย่างไร ?
เพื่อน ๆ ที่ซื้อรถมือสองหรือว่าใช้รถคันเก่ามานานจนอายุรถครบ 7 ปี จะพบว่าเมื่อต้องต่อภาษีรถยนต์ประจำปี กลับไม่สามารถทำได้ทันทีเหมือนเคย เพราะเจ้าหน้าที่ให้ไปตรวจ ตรอ. ก่อน ทำให้หลายคนงุนงงว่า ตรอ. คืออะไร แล้วทำไมต้องตรวจก่อนต่อภาษีด้วย ในบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจถึงสิ่งเหล่านี้กันค่ะ และรถที่ต้องตรวจสภาพคือรถแบบใดบ้าง
ตรอ. คืออะไร ? มีความสำคัญอย่างไร
ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 และตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ได้มีข้อกำหนดว่า รถที่จะนำมาใช้ในการขนส่ง หรือนำมาจดทะเบียน จะต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง มีลักษณะ ขนาด และเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถ ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงฯ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ร่วมใช้ถนน ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบรถให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้ ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงฯ
ตรงนี้แหละค่ะที่สถานตรวจสภาพรถหรือ ตรอ. เข้ามามีบทบาทสำคัญกับการต่อภาษีของเรา มาดูกันเลยว่า ตรอ. คืออะไรกันแน่
สถานตรวจสภาพรถเอกชน หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า ตรอ. คือที่ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ให้เป็นสถานที่ตรวจสภาพรถ ว่ามีความพร้อมในการใช้งานตรงตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบกหรือไม่ และสามารถออกเอกสารการันตี เพื่อใช้ในการต่อภาษีประจำปีได้ ซึ่งปกติแล้วต้องนำรถไปตรวจสภาพที่กรมการขนส่งทางบก
ด้วยเหตุนี้ สถานตรวจสภาพรถ ตรอ. ซึ่งมีอยู่หลายแห่งและใกล้บ้าน จึงกลายเป็นสถานที่ที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าของรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ไม่ต้องเสียเวลาไปที่หน่วยงาน และเป็นการลดภาระของกรมการขนส่งทางบกอีกด้วย
แล้วเมื่อไรจึงจะต้องตรวจสภาพรถ ?
แล้วเราต้องตรวจสภาพรถตั้งแต่ปีแรกเลยหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ค่ะ
รถที่ต้องตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี ก็คือ
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป
- รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุใช้งานครบ 5 ปี ขึ้นไป
เพื่อน ๆ สามารถดูอายุการใช้งานจากวันที่จดทะเบียนได้ในเล่มทะเบียนสีน้ำเงินหรือสีเขียว ที่กรมการขนส่งทางบกออกให้ โดยนับตั้งแต่วันจดทะเบียนวันแรกจนถึงวันครบกำหนดเสียภาษี แต่ถ้าอายุการใช้งานไม่ถึงตามที่กฎหมายกำหนด ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพรถกับ ตรอ. และหากถึงปีที่กำหนดสามารถทำการตรวจสภาพที่ ตรอ. ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือนก่อนวันครบกำหนดเสียภาษีประจำปี
รถที่ไม่สามารถตรวจสภาพกับ ตรอ.ได้
แต่รู้ไหมคะว่า มีรถบางลักษณะที่ไม่สามารถตรวจกับสถานตรวจสภาพรถ ตรอ.ได้นะคะ ต้องนำไปตรวจสภาพรถกับกรมการขนส่งทางบกโดยตรงเท่านั้น นั้นก็คือรถที่มีลักษณะดังนี้
- รถที่ขาดต่อทะเบียน เกิน 1 ปี
- รถที่มีการดัดแปลงสภาพ, เปลี่ยนแปลงตัวรถ, เปลี่ยนสี หรือส่วนใดส่วนหนึ่ง ที่ไม่ตรงกับรายละเอียดในสมุดคู่มือทะเบียนรถ
- รถที่ไม่ปรากฏตัวเลขตัวรถ หรือเลขเครื่องยนต์ มีรอยขูดขีด แก้ไข ชำรุด จนไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้
- รถที่มีการแจ้งไม่ใช้งานชั่วคราว หรือแจ้งไม่ใช้รถตลอดไป กับกรมการขนส่งทางบกเอาไว้
- รถที่มีเลขทะเบียนรุ่นเก่า เช่น กท-00001, กทจ-0001 เป็นต้น ก็ไม่สามารถตรวจสภาพที่ ตรอ.ได้เช่นกัน เพราะจะต้องเปลี่ยนทะเบียนรถใหม่ เมื่อมีการนำมาเสียภาษีประจำปี
- รถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ที่เคยสูญหาย หรือเคยโดนโจรกรรมแล้วได้คืน ต้องตรวจสภาพรถที่กรมการขนส่งทางบกเท่านั้น
ข้อควรรู้ รถที่ติดแก๊สทุกระบบ จะต้องทําการตรวจและทดสอบ โดยผู้ที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกก่อนชําระภาษีประจําปีของปีที่ 4 และจะต้องทำการตรวจและทดสอบทุกครั้งก่อนชำระภาษีทุกปีในปีต่อ ๆ ไป
ตรวจสภาพรถใช้อะไรบ้าง ?
- เจ้าของรถ
- รถที่ต้องการตรวจสภาพ
- สมุดเล่มทะเบียนรถหรือสำเนา (มอเตอร์ไซค์เล่มสีเขียว/รถยนต์เล่มสีน้ำเงิน)
รถผ่อนอยู่หรือติดไฟแนนซ์ต้องทำอย่างไร ?
แล้วถ้ารถติดสัญญาอยู่กับสถาบันการเงิน หรือบริษัทให้บริการสินเชื่อ โดยที่ไม่มีเล่มทะเบียนอยู่กับเจ้าของรถ จะดำเนินการตรวจสภาพอย่างไรล่ะ ?
ในกรณีที่รถถูกใช้ยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินหรือบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อไว้ ซึ่งเล่มทะเบียนรถจะถูกเก็บไว้ที่ผู้ให้บริการสินเชื่อ สามารถใช้สำเนาเล่มทะเบียนที่ผู้ให้บริการสินเชื่อจะต้องให้เราเก็บไว้แทนได้ค่ะ แต่ต้องตรวจสอบว่าตัวสำเนาจะต้องมองเห็นเลขทะเบียนรถ ชื่อผู้ครอบครองรถ และเลขเครื่องยนต์ชัดเจน เท่านี้ลูกค้าสินเชื่อก็สามารถนำรถไปตรวจสภาพได้ด้วยตัวเองแล้วละค่ะ
ตรวจ ตรอ. ราคาเท่าไร ?
อัตราค่าตรวจสภาพรถจาก ตรอ. ได้ถูกกำหนดโดยกรมการขนส่งทางบก ให้ใช้ราคาเดียวกันทั่วประเทศ ดังนี้
- รถยนต์น้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม ราคา 150 บาท/คัน
- รถยนต์น้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม ราคา 250 บาท/คัน
- รถจักรยานยนต์ ราคา 60 บาท/คัน
แล้วถ้าตรวจสภาพรถไม่ผ่าน ต้องทำอย่างไร ?
หลายคนคงสงสัยว่าถ้าหากตรวจสภาพรถไม่ผ่านจะต้องทำอย่างไร ?
ในกรณีที่ถ้าหากรถตรวจสอบสภาพไม่ผ่าน ทาง ตรอ. จะแจ้งข้อบกพร่องที่เป็นสาเหตุทำให้รถไม่ผ่านการตรวจสภาพให้เพื่อน ๆ ทราบค่ะ ซึ่งจะต้องทำการแก้ไขและสามารถนำกลับไปตรวจใหม่ที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) เดิมภายในระยะเวลา 15 วัน โดยจะคิดค่าบริการสำหรับการตรวจใหม่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แต่หากเกิน 15 วัน จะต้องเสียค่าบริการใหม่เต็มจำนวน
ตรอ. ต่อภาษีได้ไหม ?
หลายคนอาจจะสงสัยว่า หากเราตรวจสภาพรถแล้วสามารถต่อภาษีได้เลยไหม ? ที่จริงแล้วขึ้นอยู่กับ ตรอ. แต่ละแห่ง เพราะบางแห่งก็รับต่อภาษีให้ด้วยเลย แต่ในกรณีที่ไม่ได้รับต่อภาษี เจ้าของรถก็สามารถนำใบตรวจสภาพรถไปต่อภาษีที่สถานที่รับต่อภาษีหรือต่อภาษีรถออนไลน์ได้เช่นเดียวกัน
เราจะหา ตรอ. ใกล้บ้านได้อย่างไร ?
เราสามารถค้นหา ตรอ. ใกล้บ้านได้ผ่าน Google Map เพียงพิมพ์ว่า ตรอ. ก็จะขึ้น ตรอ. ที่อยู่ใกล้เราแล้วละค่ะ หรือสามารถค้นหาได้บนเว็บไซต์สำนักงานขนส่งประจำจังหวัดนั้น ๆ ได้เลย
เพื่อให้การขับขี่มีความปลอดภัย นอกจากความไม่ประมาทในการขับขี่แล้ว การเคารพกฎข้อบังคับต่าง ๆ ของกรมการขนส่งทางบก ยังเป็นการสร้างความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถ ใช้ถนน รวมทั้งตัวเราเองด้วย ฉะนั้นการตรวจสภาพรถและการต่อภาษีจึงเป็นหน้าที่ของเจ้าของรถที่ต้องปฏิบัติตาม และยังถือเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมอีกทางหนึ่งด้วย
รถอายุเกิน 7 ปี ก็ขอสินเชื่อรถยนต์ที่เงินเทอร์โบได้
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังต้องการเงินก้อน และมองหาสินเชื่อรถยนต์ที่รับรถที่ใช้งานมานาน สามารถติดต่อมาที่เงินเทอร์โบได้ เรารับอายุรถสูงสุดที่ 25 ปี ซึ่งจะต้องเป็นรถที่สามารถใช้งานได้ปกติ ไม่ได้จอดทิ้งเอาไว้
- วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ
- สมัครง่าย อนุมัติไว
- ไม่ต้องมีคนค้ำ
- มีรถใช้เหมือนเดิม
ต้องการเงินด่วน มาสมัครสินเชื่อรถยนต์จากเงินเทอร์โบได้ทุกสาขาใกล้บ้านได้เลย
การกดส่งข้อมูล ถือว่าคุณอ่านและรับทราบ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรียบร้อยแล้ว
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 15% - 24% ต่อปี
*เงื่อนไขและการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด